วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

จะรีโนเวตทั้งที ต้องดัดแปลงให้ถูกกฎหมาย จะได้สบายกาย สบายใจ!

กฎหมาย รีโนเวต ศึกษาให้ถูกต้องก่อนลงมือ  เพื่อจะได้ดัดแปลงถูกกฎหมาย สบายกาย สบายใจ… LEGAL REQUIREMENT FOR YOUR RENOVATION

อาคารถูกออกแบบก่อสร้างให้อยู่ได้เป็นสิบเป็นร้อยปี การปรับเปลี่ยนอาคารให้รองรับความต้องการจึงเกิดขึ้นตลอดเวลาจนกว่าอาคารจะเสื่อมสภาพลงไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเติมไอเดียการตกแต่งใหม่ ๆ ซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ให้กลับมามีเสน่ห์น่าอยู่เช่นเดิม ซึ่งถือเป็นการใช้ทรัพยากรเดิมที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่าช่วยประหยัดงบประมาณและเวลาแต่สิ่งที่เป็นยาขมตามมาอย่างหนึ่งคือกฎหมายควบคุมอาคาร ที่ดูเข้าใจยากและจุกจิกสำหรับคนทั่วไป โดยเฉพาะภาษากฎหมายน่าเวียนหัว แต่หากลองทำความเข้าใจ คัดเฉพาะที่ตรงกับโจทย์ของเรา กฎหมายก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
กฎหมาย รีโนเวต
อาคารอยู่ที่ไหนจำไว้ว่าอาคารอยู่ที่ไหนก็ใช้กฎหมายที่นั่นทุกจังหวัดในประเทศไทยจะใช้กฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารเป็นหลัก แต่อาจมีข้อบัญญัติตามแต่ละท้องถิ่นเพิ่มเติมเข้ามา รวมถึงในพื้นที่พิเศษ เช่น ใกล้อุทยานแห่งชาติแหล่งน้ำ ทะเล และโบราณสถานดังนั้นนอกจากจะต้องดูกฎกระทรวงเป็นหลักแล้ว ต้องหากฎหมายเฉพาะของท้องถิ่นมาดูประกอบด้วย
นอกจากนี้ยังมีกฎหมายสิ่งแวดล้อมและกฎหมายผังเมืองเป็นตัวควบคุมภาพรวมทั้งหมดด้วย ไม่ว่าจะเป็นขนาดอาคาร พื้นที่ว่าง ความสูง ห้ามกิจการบางประเภท และยังมีกฎหมายอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายแผ่นดินไหว กฎหมายสถานบริการกฎหมายสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ทั้งนี้ก็เพื่อควบคุมอาคารให้ได้มาตรฐาน ปลอดภัยกับผู้พักอาศัย
รีโนเวตตึกแถวเก่า
จะใช้อาคารทำเป็นอะไรเข้าใจนิยามให้ชัดเจนว่าจะเปิดใช้อาคารเป็นอะไร ในทางกฎหมาย จะช่ วยให้ขอบเขตในการศึกษาข้อบังคับต่าง ๆแคบลง เช่น อาคารสาธารณะ อาคารพาณิชย์ อาคารอยู่อาศัย โรงแรมภัตตาคาร ที่จอดรถ ฯลฯ เพราะทุก ๆ สถานที่ล้วนมีข้อกำหนดที่ต่างกันแถมบางครั้งยังต้องรักษาข้อกำหนดพิเศษของอาคารเดิมไว้ เช่น ปรับปรุงตึกแถวเป็นออฟฟิศหรือร้านอาหารก็ยังคงต้องใช้กฎหมายตึกแถว หรือการเว้นที่ว่างด้านหลังอาคารจากเขตที่ดินเพื่อความปลอดภัยด้านอัคคีภัย และที่สำคัญคือ อาคารหลังหนึ่ง ๆ อาจเข้าข่ายเป็นอาคารหลายประเภทได้พร้อมกัน ทั้งนี้อาคารบางประเภท เช่น โรงแรม ก็ต้องมีการขออนุญาตก่อนเปิดใช้อาคารด้วย
ต้องยื่นขออนุญาตดัดแปลงทุกอย่างเลยหรือเปล่า?
ในกรณีที่เปลี่ยนโครงสร้างของอาคารโดยใช้วัสดุ ขนาด จำนวน และชนิดเดียวกับของเดิม ไม่จำเป็นต้องยื่นขออนุญาตเช่น บ้านไม้ที่ต้องการเปลี่ยนเสาหรือคานไม้ที่มีการชำรุด โดยใช้ประเภทไม้ขนาด และจำนวนเท่าเดิม แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการดัดแปลงอาคาร เว้นแต่จะเปลี่ยนโครงสร้างจากเดิมมาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก คอนกรีตอัดแรงหรือโครงสร้างที่มีเหล็กผสมอยู่ จำเป็นต้องขออนุญาตก่อน แม้จะใช้ขนาดหรือจำนวนวัสดุเท่าเดิมก็ตาม นอกจากนี้การเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ของอาคารที่ไม่ใช่โครงสร้าง เช่น พื้น ผนัง ฯลฯ ต้องคำนวณน้ำหนักวัสดุก่อนว่าเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเกินร้อยละสิบหรือไม่ ถ้าเกินต้องขออนุญาตเพื่อป้องกันปัญหาโครงสร้างรับน้ำหนักวัสดุไม่ไหวจนอาจเกิดอันตรายได้ แต่สำหรับการลดหรือขยายพื้นที่อาคารและหลังคาไม่เกิน5 ตารางเมตรโดยไม่ได้เพิ่มโครงสร้างไม่จำเป็นต้องยื่นขออนุญาต
 
นิยามและหลักเกณฑ์ของที่ว่าง แนวอาคาร ความสูงอาคาร ช่องเปิด ช่องเปิดผนังทึบ บันไดหนีไฟคำเหล่านี้ในทางกฎหมายล้วนมีนิยามบัญญัติไว้ชัดเจน หาอ่านได้ในช่วงต้นของชุดกฎหมาย เช่น
  • ที่ว่าง หมายถึง พื้นที่ไร้สิ่งปกคลุมจากพื้นดินถึงท้องฟ้า และพื้นที่นี้ต้องสูงจากพื้นดินไม่เกิน 1.20 เมตร ไม่มีหลังคาใด ๆ ปกปิด สำหรับโรงแรมซึ่งเข้าข่ายอาคารพักอาศัย ต้องมีที่ว่างรวม30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอาคารประเภทอื่น ๆควรมีที่ว่างรวม 10 เปอร์เซ็นต์
  • แนวอาคาร ที่ใช้ในการกำหนดระยะห่างจากเขตที่ดิน หมายถึง ผนังอาคารไม่ได้รวมถึงกันสาดหรือชายคา ระยะดังกล่าวจึงเป็นคนละความหมายกับที่ว่าง
  • ความสูงอาคาร ให้วัดแนวดิ่งจากระดับถนนหรือระดับพื้นดินที่ก่อสร้างขึ้นไปถึงส่วนของอาคารที่สูงที่สุด สำหรับอาคารทรงจั่วหรือปั้นหยาให้วัดถึงยอดผนังของชั้นสูงสุด แต่สำหรับในบางท้องที่อาจออกกฎหมายแตกต่างกันไป
  • ช่องเปิด หมายรวมถึงผนังของอาคารด้านที่มีหน้าต่าง ประตู ช่องระบายอากาศ ช่องแสง และระเบียงของอาคารโดยมีระดับความสูงของอาคารและตำแหน่งช่องเปิดเป็นตัวแปรในการกำหนดระยะร่นจากแนวเขตที่ดินเช่นเดียวกับ ผนังทึบ
  • บันไดหนีไฟ มีกฎหมายบังคับให้อาคารที่สูงตั้งแต่ 4 ชั้นขึ้นไปต้องมีบันไดหนีไฟที่ทำด้วยวัสดุทนไฟอย่างน้อยหนึ่งแห่ง ซึ่งมีรายละเอียดต่างไปจากบันไดสัญจรปกติในอาคารทั่วไป
 ton-150916-035
บันไดและทางเดิน
อีกสิ่งที่มักจะเป็นปัญหาในการดัดแปลงอาคารก็คือความกว้างของบันไดและทางเดิน สำหรับบันไดในอาคารพักอาศัยต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 80เซนติเมตร ส่วนอาคารอยู่อาศัยรวมต้องมีความกว้างของบันไดไม่น้อยกว่า1.20 – 1.50 เมตร ส่วนช่องทางเดินในอาคารอยู่อาศัย ต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 1 เมตร อาคารอยู่อาศัยรวม อาคารพาณิชย์ โรงงาน อาคารสาธารณะ ต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า1.50 เมตร

ton-150916-001

สิ่งอำนวยความสะดวกแน่นอนว่าการดัดแปลงบ้านมาเป็นอาคารสาธารณะมักจะเจอปัญหาพื้นที่ว่างไม่พอสำหรับที่จอดรถตามกฎหมาย ซึ่งสามารถใช้ที่ดินแปลงอื่นที่ห่างไม่เกิน 200 เมตรเป็นที่จอดรถได้ โดยกฎหมายจะระบุสัดส่วนพื้นที่จอดรถเทียบกับพื้นที่อาคารแต่ละประเภท รวมถึงจำนวนสุขภัณฑ์และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการไว้อย่างชัดเจน เช่นทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถคนพิการ

ระยะร่นระยะร่นด้านหน้าอาคารโดยปกติจะขึ้นอยู่กับความกว้างของถนน ประเภท และความสูงของอาคาร เช่น ถนนสาธารณะที่กว้างเกิน 6 เมตร แต่น้อยกว่า 10 เมตร ให้ร่นแนวอาคาร 6 เมตรจากกึ่งกลางถนน ยกเว้นบ้านพักอาศัยที่สูงไม่เกิน 2 ชั้นหรือ 8 เมตรอาจมีระยะร่นน้อยกว่านี้ได้ (สำหรับกรุงเทพฯ ยกเว้นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 3 ชั้นหรือ 10 เมตร) ทำให้ไม่สามารถต่อเติมดัดแปลงด้านหน้าอาคารล้ำระยะร่นตามกฎหมายนี้ได้ ส่วนระยะร่นจากแนวเขตที่ดินด้านอื่น ขึ้นอยู่กับความสูงของอาคาร ชนิดอาคารและตำแหน่งช่องเปิด เช่น อาคารที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร ผนังที่มีช่องเปิด (รวมถึงระเบียง) ต้องห่างจากแนวเขตที่ดินอย่างน้อย2 เมตร แต่ถ้าผนังด้านนั้นมีระยะห่างน้อยกว่า 2 เมตร แต่ไม่เกิน 0.50 เมตร วัดจากแนวเขตที่ดินผู้อื่น ต้องก่อสร้างเป็นผนังทึบตลอดแนว จะดัดแปลงเป็นช่องเปิดไม่ได้ แต่สำหรับในเขตกรุงเทพฯกำหนดให้มีที่ว่างรอบแนวเขตที่ดินอย่างน้อย1 เมตร ยกเว้นบ้านพักอาศัยที่มีพื้นที่ไม่เกิน 300 ตารางเมตร และสูงไม่เกิน 15 เมตร
 
สำหรับอาคารที่ดัดแปลงเป็น โรงแรมกฎกระทรวงมีข้อยกเว้นว่า โรงแรมที่ไม่เกิน 4 ห้องและผู้พักไม่เกิน 20 คนไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.โรงแรม ดังนั้นจึงสามารถใช้กฎหมายสำหรับที่พักอาศัยทั่วไปได้ เช่น บันได – ทางเดินที่แคบกว่าอาคารสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ แต่ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานแสดงว่าได้รับอนุญาตให้ใช้อาคารเป็นโรงแรม หรือมีใบรับรองการตรวจสอบสภาพอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการก่อสร้างอาคารเสียก่อน   
ทั้งนี้ควรศึกษาก่อนวางแผนการลงทุนหรือตัดสินใจเช่าหรือซื้ออาคารมาดัดแปลง เพื่อให้เข้าใจข้อจำกัดของกฎหมาย และเพื่อสร้างสภาวะที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อผู้ใช้อาคารเคารพสิทธิของเพื่อนบ้าน ชุมชน และเมือง การทำตามกฎหมายจะช่วยให้เมืองน่าอยู่ ผู้ใช้สบายกาย เจ้าของก็สบายใจ แล้วยังส่งผลดีต่อการขายกิจการต่อในอนาคตด้วย
อ่านเพิ่มเติมไอเดีย รีโนเวตโรงแรม-โฮสเทได้ที่นี่ > รีโนเวตตึกแถวเก่าให้เก๋าเท่ทำเงิน กับ 5 Hostel ใจกลางกรุงเทพฯ
หนังสือแนะนำ คู่มือกฎหมาย ใช้บ่อย โดยสมาคมสถาปนิกสยามฯผู้เขียน อาจารย์คมกฤช ชูเกียรติมั่น(พิมพ์ครั้งแรก 2556) สรุปเนื้อหาแต่ละเรื่องเปรียบเทียบกับข้อกฎหมายพร้อมข้อสังเกต และภาพประกอบที่เข้าใจง่าย

เรื่อง ปิติรัตน์ ยศวัฒน และพรพรหม แม้นนนทรัตน์ภาพประกอบ คณาธิปเรียบเรียง Parichat K.
cr: baanlaesuan.com

ช่องทางการติดต่อ
ก.การช่างทีม คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
ก.การช่าง รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
www.kor-karnchang.com
Phone: 0979692624 , 0955419777, 0954956444
Email: cs@kor-karnchang.com



 

วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

10 โทนสีแต่งห้องนอนที่เขาว่าดี ช่วยให้หลับสนิท ตื่นมาอย่างมีความสุข

แต่งห้องนอน



           เปิดคลังสีแต่งห้องนอนที่มีอิทธิพลต่อการพักผ่อน ช่วยให้หลับสนิท สร้างความสุขและความเบิกบานตั้งแต่ตื่นนอน ถ้าอยากต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยจิตใจที่สดใส งั้นจะรอช้าอยู่ทำไมไปเลือกสีมาแต่งห้องนอนกันเถอะ 
 
           แม้ว่าเทคนิคการตกแต่งจะช่วยให้บรรยากาศในห้องนอนนั้นน่าอยู่ขึ้นมาได้ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเลือกที่จะตกแต่งห้องนอนด้วยสีสันต่าง ๆ ที่ทำให้การตื่นนอนในตอนเช้านั้นมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นกระปุกดอทคอมจึงไม่รอช้าที่จะนำไอเดียแต่งห้องนอนด้วยสีที่ช่วยให้นอนหลับสนิท ตื่นมาพร้อมความสดชื่น จิตใจแจ่มใส และมีความสุขตั้งแต่เช้ามาฝากกันค่ะ 

สีห้องนอน
ภาพจาก logankilleninteriors 

1. สีเหลือง

          แม้สีโทนสว่าง ๆ อย่างสีเหลืองจะดูเป็นสีที่ทำให้รู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และดูไม่เหมาะสมกับการนำมาตกแต่งห้องนอน แต่มันก็สามารถสร้างความสุขให้กับเราได้ตั้งแต่ลืมตาตื่นนอนเลยเชื่อไหม อีกทั้งยังกระตุ้นความแอ็คทีฟในตัว ทำให้รู้สึกสดชื่น เพิ่มความคล่องตัว และพร้อมที่จะออกไปเผชิญโลกอย่างมั่นใจได้อีกด้วย
 
สีห้องนอน
ภาพจาก digsdigs 
 
2. สีฟ้า

          หากห้องนอนห้องเก่าดูไม่มีชีวิตชีวาอีกต่อไป ลองเปลี่ยนสีห้องนอนมาเป็นสีฟ้าน้ำทะเลหรือสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ดูสิคะ แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง ความสนุกสนาน พร้อมทั้งปลุกความสดใสให้ตื่นนอนมาพร้อมกับคุณเลยทีเดียว แม้ในห้องนอนจะไม่มีการตกแต่งอะไรมากมาย แต่สีโทนนี้ก็ทำให้ห้องนอนของคุณดูสวยงามอย่างสมบูรณ์แบบ

สีห้องนอน
ภาพจาก designtheoryinteriors 

3. สีเขียว

          ไม่ว่าสีเขียวนั้นจะเป็นโทนไหนหรือเฉดอะไร มันก็คือสีที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติเสมอ โดยเฉพาะสีเขียวอ่อน หากเลือกนำมาแต่งห้องนอนก็จะทำให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายสบายอารมณ์ เสมือนได้พักผ่อนในธรรมชาติ เมื่อดวงอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้าแสงแดดอุ่น ๆ ที่ลอดเข้ามากระทบกับสีเขียวอ่อนภายในห้อง ก็จะทำให้รู้สึกเหมือนนอนอยู่ในสวนเลยล่ะ 
 
สีห้องนอน
ภาพจาก nathanjac 

4. สีชมพู
          เมื่อพูดถึงห้องนอนสีชมพูแล้วหลายคนคงจะกลัวความเลี่ยนจนไม่กล้านำมาใช้ แต่หารู้ไม่ว่าสีชมพูนี่แหละเปรียบเสมือนยาอายุวัฒนะที่ทำให้รู้สึกสดชื่นและสดใสเมื่อยามตื่นนอน กระตุ้นพลังในร่างกายสำหรับเช้าวันใหม่ คล้ายกับเด็กหนุ่ม-สาวที่ยังมีไฟอยู่เสมอ หากใครไม่มั่นใจกับการแต่งห้องด้วยสีชมพู ก็แค่ลองปรับเปลี่ยนวิธีโดยการแต่งมุมใดมุมหนึ่งด้วยสีชมพูหรือเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีชมพูแทนก็ได้ค่ะ  

สีห้องนอน
ภาพจาก alexistoureau 

5. สีส้ม

          สีส้มเป็นส่วนผสมระหว่างสีแดงและสีเหลือง ดังนั้นหากนำสีส้มมาตกแต่งในห้องนอนก็จะช่วยกระตุ้นพลังงานในตัวและยังทำให้รู้สึกสดชื่น สีส้มสื่อถึงการมองโลกในแง่ดีช่วยให้การตื่นนอนตอนเช้าในแต่ละวันนั้นมีแต่ความสุขอีกด้วย 

สีห้องนอน
ภาพจาก nozdesign 

6. สีกรมท่าหรือสีน้ำเงิน

          ความเข้มข้นของสีกรมท่านั้นสื่อถึงความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความยุติธรรม ดังนั้นการตกแต่งห้องนอนด้วยสีกรมท่าก็จะทำให้การตื่นนอนของผู้อยู่อาศัยนั้นมีความหมาย เตรียมความพร้อมให้ออกไปเจอสิ่งต่าง ๆ และจัดการกับมันได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ถอยหนีแม้มีอุปสรรคมากมาย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มเติมความคิดสร้างสรรค์และสีสันในชีวิตได้อีกด้วย

สีห้องนอน
ภาพจาก seanlitchfield

7. สีขาว

          สีขาวไม่ได้มีดีแค่ช่วยเพิ่มขนาดของห้องเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าหากเรานำมาตกแต่งห้องนอนก็ช่วยปรับบรรยากาศในห้องให้ดูผ่อนคลาย เมื่อแสงส่องลอดเข้ามาภายในห้องนอนก็จะสะท้อนความสว่าง ทำให้การตื่นนอนของเรามีความสุขมากยิ่งขึ้นกว่าทุกวันด้วย 

สีห้องนอน
ภาพจาก behruzstudio 

8. สีม่วง

          สีม่วงถือว่าเป็นสีที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เหมาะกับคนที่ช่างคิดช่างสร้างสรรค์ ถ้าหากนำมาตกแต่งห้องนอน ก็จะช่วยกระตุ้นพลังความคิดและจิตวิญญาณภายในตัว สร้างแรงบันดาลใจให้การตื่นนอนของคุณมีความหมาย พร้อมออกไปสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เสมอ 

สีห้องนอน
ภาพจาก branca 

9. แดงราสป์เบอร์รี

          แม้การตกแต่งห้องนอนด้วยสีแดงนั้นจะช่วยกระตุ้นพลังในตัวก็จริง แต่ก็ไม่ควรเลือกใช้สีแดงโทนเข้มหรือสีแดงโทนสว่างจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความก้าวร้าวและอารมณ์ฉุนเฉียว เลยอยากแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นสีแดงโทนแดงราสป์เบอร์รีที่ดูอ่อนลง สำหรับผู้ที่อยากตกแต่งห้องนอนด้วยสีแดงจะดีกว่า 

สีห้องนอน
ภาพจาก onsitemanagement 

10. สีน้ำตาล

          อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีสีน้ำตาลกันไป เพราะจริง ๆ แล้วสีน้ำตาลสามารถสื่อได้ถึงความอบอุ่น ความจริงใจ และแอบซ่อนความผ่อนคลายเอาไว้ข้างใน หากนำมาตกแต่งห้องก็ควรเลือกตกแต่งให้เหมาะสมและพอดี อย่าให้มืดหรือซีดจางจนเกินไป เพียงเท่านี้ห้องนอนสีน้ำตาลก็จะให้คุณมีความสุขตั้งแต่ลืมตาตื่นมาพร้อมกับบรรยากาศที่แสนอบอุ่นและมีความเป็นมิตรอยู่รายล้อม

          เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าสีนั้นมีอิทธิพลต่อความสุขของคนเราขนาดไหน ดังนั้นหากอยากให้การตื่นนอนในตอนเช้ามีความสุขและเปี่ยมไปด้วยพลังที่พร้อมเผชิญโลกกว้าง ก็อย่าลืมนำไอเดียสีแต่งห้องนอนที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปตกแต่งกันดูนะคะ


cr : https://home.kapook.com/view149574.html


ช่องทางการติดต่อ
ก.การช่างทีม คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
ก.การช่าง รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
www.kor-karnchang.com
Phone: 0979692624 , 0955419777, 0954956444
Email: cs@kor-karnchang.com

 

วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

แนวทางการสร้าง บ้านเพื่อผู้สูงอายุ

แนวทางการสร้าง บ้านเพื่อผู้สูงอายุ


           ว่ากันว่าบ้านเรากำลังเข้าสู่สังคมที่ผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยในการอยู่อาศัยมีความสำคัญที่จะช่วยทำให้ผู้สูงวัยอยู่อาศัยได้สะดวกสบายขึ้น บ้านเพื่อผู้สูงอายุ

วันนี้บ้านและสวนมีรายข้อมูลดีๆ
สำหรับคนที่กำลังจะทำ บ้านเพื่อผู้สูงอายุ มาฝากกันค่ะ
 ทางเข้าบ้าน
สำหรับผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นควรมีทางลาดให้ขึ้น-ลงได้สะดวก อัตราส่วนของทางลาดอย่างน้อยไม่เกิน 1:12 คือ ถ้าพื้นสูง 1 เมตร ทางลาดต้องยาว 12 เมตร และควรติดตั้งราวจับที่มีความสูงประมาณ 80-90 เซนติเมตร
ประตู-หน้าต่าง
ประตูควรมีความกว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร ไม่ควรมีธรณีประตู เพื่อป้องกันการสะดุดล้ม และต้องมีระยะของมือจับสูงจากพื้น 100 เซนติเมตรหน้าต่างควรสูงจากพื้น 50 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้สูงอายุที่นั่งรถเข็นสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้

 ห้องนั่งเล่น
ควรเลือกใช้กระเบื้องที่มีผิวสัมผัสไม่ลื่นในส่วนใช้สอยที่ต่างกันควรใช้สีสันตัดกัน เช่น พื้น ผนัง รวมถึงบัวเชิงผนัง เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ควรอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและเป็นระเบียบ ภายใต้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย 
ห้องครัว
ตำแหน่งของห้องครัวควรเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบายระดับโต๊ะและเคาน์เตอร์ควรสูงจากพื้น 80 เซนติเมตรเพื่อให้ผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นใช้งานได้อย่างสะดวกควรจัดวางเครื่องใช้ภายในห้องครัวโต๊ะอาหาร เตา และตู้เย็น ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
 ห้องน้ำ
สิ่งที่​ควรคำนึงถึงมากที่สุดก็คือความปลอดภัยและง่ายต่อการใช้งาน เริ่มจากห้องน้ำควรมีความกว้างไม่น้อยกว่า 150-200 เซนติเมตร เพื่อให้สามารถใช้รถเข็นได้อย่างสะดวกควรเลือกสุขภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุอาทิ อ่างล้างหน้ารูปแบบที่มีส่วนโค้งเว้า เพื่อให้ผู้ใช้รถเข็นสามารถสอดขาเข้าไปได้ก๊อกน้ำ เลือกแบบปัดไปด้านข้าง จะได้ไม่ต้องออกแรงในการเปิด – ปิดกระจกในห้องน้ำควรใช้แบบปรับมุมซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุมองเห็นช่วงล่างโดยไม่ต้องยืนโถสุขภัณฑ์ควรมีความสูงใกล้เคียงกับรถเข็น พร้อมติดตั้งราวจับและเก้าอี้นั่งสำหรับอาบน้ำนอกจากนี้สิ่งขาดไม่ได้เลย คือ “สัญญาณฉุกเฉิน” เพื่อให้คนภายนอกสามารถรับรู้ถึงความผิดปกติและเข้ามาช่วยเหลือได้ทันที
 
ห้องนอน
ควรเป็นห้องที่อยู่ใกล้กับห้องน้ำมากที่สุดโดยเตียงนอนควรมีความยาวไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร ระดับเตียงควรสูง 40 เซนติเมตรตู้เสื้อผ้าเลือกใช้แบบบานเลื่อน เพื่อให้ง่ายสำหรับการใช้งานของผู้สูงอายุและควรมีพื้นที่ว่างโดยรอบเตียงสามด้านอย่างต่ำ 90 เซนติเมตร บริเวณหัวเตียงควรติดตั้งสัญญาณฉุกเฉินเช่นเดียวกับในห้องน้ำ
 ภายนอกบ้าน
ควรปลูกต้นไม้ช่วยเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นเพื่อสร้างความผ่อนคลายให้แก่ผู้สูงอายุ นอกเหนือจากการออกแบบที่กล่าวมาทั้งหมดจะช่วยให้บ้านพักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุมีความน่าอยู่และสะดวกสบายแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การที่ลูกหลานและญาติพี่น้องให้การดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ให้ความรัก ความอบอุ่น และความห่วงใยแก่ผู้ชรา สิ่งนี้จะช่วยเป็นกำลังใจให้ท่านดำเนินชีวิตในบั้นปลายได้อย่างมีความสุข มีสุขภาพจิตและสุขภาพกายดีตราบนานเท่านาน
สามารถดูคลิปเพิ่มเติมได้ข้างล่างนี้
เรื่อง : ดุษยา สุขวราภิรมย์
ภาพประกอบ : ณัฐ ถนอมวีระวงศ์
cr: baanlaesuan.com

ช่องทางการติดต่อ
ก.การช่างทีม คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
ก.การช่าง รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
www.kor-karnchang.com
Phone: 0979692624 , 0955419777, 0954956444
Email: cs@kor-karnchang.com