วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ขั้นตอนการเตรียมรีโนเวทบ้านให้พร้อม งบไม่บานปลาย


ขั้นตอนการเตรียมรีโนเวทบ้านให้พร้อม งบไม่บานปลาย

    อยากจะรีโนเวทบ้าน แต่ไม่รู้เริ่มต้นทำอะไรก่อนดี วันนี้เรามีลำดับขั้นตอน สำหรับมือใหม่ที่ต้องการจะรีโนเวทบ้านมาฝากกัน เพื่อจะได้กำหนดรูปแบบ และงบประมาณในการปรับปรุงที่เหมาะสม และไม่บานปลาย


1.แรงบันดาลใจ
      นำแรงบันดาลใจจากที่เคยพบเห็นนำมาถ่ายทอดให้สถาปนิก อินทีเรีย ผู้รับเหมาทราบ โดยพิจารณาว่า พื้นที่เดิมซึ่งเคยถูกออกแบบไว้เพื่อการใช้งานตั้งแต่เก่าก่อนหรือทรุดโทรมมากแล้ว เราจะปรับเปลี่ยนฟังชั่นก์การใช้งาน หรือจะเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้เข้ากับแบบที่เราชื่นชอบได้อย่างไร ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
2.ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่น
      เมื่อทำใหม่เราควรคิดถึงประโยชน์ใช้สอย ที่เราจะใช้ในชีวิตประจำวันของเราในทุกๆ วันว่า เราต้องการอะไรบ้าง หรืออาจจะดีไซน์ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานหนึ่งชิ้นให้ใช้ประโยนช์ได้มากกว่าหนึ่งอย่าง เป็นต้น
3.ตัดสินใจเลือกวัสดุให้เหมาะกับการใช้งาน
     เลือกใช้วัสดุและออกแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ เลือกวัสดุที่ดูแลรักษาง่าย เข้าได้กับทุกสไตล์ของบ้าน และที่สำคัญเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับพื้นที่ จะนำมาไว้ภายในบ้าน หรือควรไว้ภายนอกบ้าน เพราะมีผลต่ออายุการใช้งานของวัสดุนั้นๆ
4.โครงสร้าง
      การปรับปรุงโครงสร้างเราต้องคำนึงถึงโครงสร้างเดิมเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าปรับปรุงภายในบ้านวัสดุที่นำมาใช้ไม่ควรเพิ่มน้ำหนักให้กับโครงสร้างบ้านมากจนเกินไป ควรเลือกใช้วัสดุโครงสร้างผนังและพื้นที่มีน้ำหนักเบากว่างานโครงสร้างเดิม แต่ถ้ามีการต่อเติออกมานอกตัวบ้าน โครงสร้างจะต้องแข็งแรงและคำนึงถึงการทรุดตัว เพราะถ้าคำนวนไม่ดีบ้านเกิดการทรุดตัวจะทำให้ดึงรั้งโครงสร้างบ้านเดิมทำให้ตัวบ้านเกิดความเสียหาย หรืออาจจะราว ทรุดพังเลยก็เป็นได้
5.ระบบไฟฟ้าและประปา 
      สำหรับบ้านที่มีอายุเกิน 15 ปี อาจจะถือโอกาสเดินงานระบบไฟฟ้าและระบบประปาใหม่เลยก็ส่งผลดีเพราะอายุการใช้ งานของงานระบบ มีอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน ถ้าบ้านเป็นบ้านเก่าบางที่ตอนที่สร้างครั้งแรกช่างอาจจะไม่ได้กรีดผนังฝัง สายไว้ หรืออาจจะกรีดผนังฝังสายไฟ แต่ไม่ได้นำสายไฟร้อยท่อก็จะทำให้อายุการใช้งานลดลง ถ้าบ้านอายุประมาณ 15-20 ปีก็ควรเป็นงานระบบไฟฟ้าไปเลยในตัว

โครงสร้างตึก
6.งบประมาณ
     แม้จะมีการตั้งงบประมาณไว้แล้ว แต่ก็ควรวางแผนในการใช้งบประมาณ ถ้าไม่อยากให้งบประมาณบานปลายควรคุมเรื่อง ของระยะเวลาในการปรับปรุง, ไม่เปลี่ยนความคิดบ่อยๆ เพราะจะส่งผลให้การก่อสร้างยืดเวลาและจะทำให้ค่าใช้จ่ายเราสูงเพิ่มขึ้นอีกด้วย
 

cr: decor.mthai.com
ช่องทางการติดต่อ
ก.การช่างทีม คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
ก.การช่าง รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
www.kor-karnchang.com
Phone: 0979692624 , 0955419777, 0954956444
Email: cs@kor-karnchang.com


วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

วิธีซ่อมรอยแตกร้าวบนผนังบ้าน

วิธีซ่อมรอยแตกร้าวบนผนังบ้าน

     ผนังที่เกิดการแตกร้าวหรือแตกลายงานั้น ส่วนใหญ่จะเกิดที่ผนังภายนอก ก็เพราะก็ภายนอกโดนทั้งแดด ลม ฝน มันจึงมีการแตกร้าวมากกว่าผนังภายในอย่างที่เห็นนั่นเอง


     ผนังแตกร้าวภายในบ้าน เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา พอเกิดมีรอยแตกร้าวขึ้นมายิ่งมองก็ยิ่งไม่สวย ต้องหาทางแก้ปัญหา เพราะปูนซีเมนต์ที่ใช้ฉาบผนังบ้านนั้นมันมีการหดตัวหรือขยายตัวได้ โดยมีอุณหภูมิหรือสภาวะแวดล้อมภายนอกเป็นตัวกระตุ้น ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการแตกร้าวมากหรือน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น 
 
- เกิดจากส่วนผสมไม่ถูกต้อง ถ้าขั้นตอนการฉาบปูนหรืออัตราส่วนผสมถูกต้อง มีการบ่มผนังบ้านที่ฉาบเสร็จแล้วอย่างถูกวิธี ก็จะลดอัตราการแตกร้าวของผนังให้น้อยลงได้

- การเตรียมผิวผนังก่อนทำการฉาบปูนไม่ดี เช่น ไม่รดน้ำให้ อิฐเปียกชุ่มก่อนทำการฉาบ เมื่อฉาบปูนผนังไปแล้วทำให้อิฐดูดซึมน้ำจากปูนฉาบทำให้ผนังที่ฉาบปูนแห้ง เร็วเกินไปทำให้เกิดการแตกร้าวหลุดร่อนในภายหลัง  

- ระยะเวลาในการฉาบปูนหรือขั้นตอนในการฉาบปูนผนังไม่ถูกต้อง 

- อุณหภูมิ และสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ความร้อนจากแสงแดด, ลม, ฝนหรือความชื้น เป็นต้น พูดง่ายๆว่าโดนร้อนก็ขยายตัว โดนชื้นก็หดตัว เมื่อมีการขยายตัวหรือหดตัวของปูนที่ฉาบผนังการแตกร้าวก็ตามมา 

วิธีการซ่อมรอยร้าวของผนังแบบแตกลายงา หรือแตกร้าวจากคุณภาพของการฉาบปูนผนังบ้านไม่ดี 
การแตกร้าวตามมุมวงกบประตู-หน้าต่าง โดยเฉพาะวงกบที่ทำจากไม้ 

1.ก่อนที่จะทำการซ่อมก็ต้องตรวจสอบดูก่อนว่ารอยแตกร้าวนั้นเป็นอย่างไร แตกร้าวเฉพาะผิวหน้าผนังหรือว่าแตกร้าว และหลุดร่อนไปถึงชั้นในของผนังบ้าน

วิธีตรวจสอบ ใช้นิ้วมือเรานี่แหละเคาะดู

กรณีที่ 1 ถ้าเคาะแล้วเกิดมีเสียงดังก้องๆ แสดงว่ารอยแตกร้าวบริเวณนั้น ปูนฉาบที่ฉาบทับผนังอิฐก่อเกิดการกะเทาะหลุดร่อนออกจากก้อนอิฐ ไม่ช้าไม่นานก็จะกะเทาะหลุดออกมาเป็นแผ่น

การซ่อมแซมบ้านที่ผนังแตกร้าวแบบนี้ก็ต้องสกัดเอาส่วนที่กะเทาะหรือหลุด ร่อนออก ก่อนสกัดก็ต้องใช้ลูกหมู 4 นิ้วพร้อมใบที่ใช้ตัดกระเบื้อง ตัดเป็นวงล้อมรอบบริเวณที่จะทำการสกัดเอาส่วนที่ร่อนออกแล้วค่อยทำการสกัด เอาปูนฉาบผนังส่วนที่ร่อนออก เพราะถ้าเราไม่ตัดเป็นแนวล้อมไว้ก่อน เมื่อทำการสกัดก็อาจทำให้ผนังหลุดกะเทาะลามออกไปเรื่อยๆ

สำหรับวิธีซ่อมรอยแตกร้าวบนผนังบ้าน โดยการสกัดผนังนั้น ก็ใช้ค้อนกับตะปูคอนกรีตค่อยๆตอกสกัดออกโดยการเอาดอกตะปูคอนกรีตตอกเข้ากับ สายยางเพื่อทำเป็นด้ามจับ ไม่ควรใช้เครื่องมือสกัดแบบแรงๆ เพราะอาจทำให้ผนังกะเทาะลามออกไป เมื่อสกัดปูนฉาบผนังเดิมออกหมดแล้วช่างก็จะทำความสะอาดผิวโดยการสลัดน้ำล้าง ให้ชุ่มแล้วก็ทำการฉาบปูนซ่อมบริเวณที่สกัดออก
ก่อนทำการฉาบปูนซ่อมช่างฯอาจจะสลัดดอกไว้ ก่อนก็ได้หรือจะใช้น้ำยาช่วยยึดเกาะ (Bonding)
ทาก่อนทำการฉาบปูนซ่อมผนังก็ได้ เพื่อช่วยการยึดเกาะของปูนฉาบกับผนังอิฐก่อได้ดียิ่งขึ้น
(อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิคของช่างฯ )

กรณีที่ 2 สำหรับรอยแตกร้าวหรือรอยแตกลายงาผนังบ้าน ที่เคาะแล้วไม่มีเสียงก้องหรือมีเสียงแน่นๆ ทึบๆก็แสดงว่าปูนฉาบผนังบริเวณนั้นไม่มีการหลุดร่อนเป็นเพียงแต่การแตกบนผิวหน้าปูนฉาบเท่านั้น

การซ่อมแซมรอยร้าวผนังกรณีนี้ก็ง่ายๆ ใช้วัสดุสำหรับเก็บรอยแตกลายงาที่มีขายตามร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วไป เอามาอุดโป๊วหรือทาทับปิดรอยร้าวแล้วทาสีทับตามปกติได้เลย

วิธีซ่อมรอยแตกร้าวบนผนังบ้าน แบบนี้ช่างสีก็จะใช้สันเกรียงโป๊วสีที่คมๆกรีดไปตามแนวร่องที่แตกลายงานั้น ให้เป็นร่องเล็กน้อยเพื่อวัสดุที่ใช้อุดโป๊วหรือแบบใช้ทา จะได้ซึมลงไปอุดรอยแตกร้าวในร่อง เสร็จแล้วก็ขัดแต่งแล้วทาสีทับได้เลย วิธีการซ่อมให้ได้ผลดีสำหรับตัววัสดุที่เราเลือกมาซ่อมก็ให้ดูวิธีใช้ที่ผู้ผลิตแนะนำ

cr:
foremanblog.com

ช่องทางการติดต่อ
ก.การช่างทีม คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
ก.การช่าง รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
www.kor-karnchang.com
Phone: 0979692624 , 0955419777, 0954956444
Email: cs@kor-karnchang.com



 

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พื้นห้องน้ำรั่วซึม ปัญหาหนักใจของคนมีบ้าน

พื้นห้องน้ำรั่วซึม

ปัญหาหนักใจของคนมีบ้าน


   ห้องน้ำเป็นจุดที่มักจะพบปัญหาการรั่วซึม ปัญหา นี้มักพบบ่อยในบ้านสองชั้น ที่มีห้องน้ำอยู่ชั้นสองของบ้าน จะพบว่าจากตำแหน่งห้องน้ำชั้นสองจะมีรอยรั่วของน้ำซึมลงมาบริเวณฝ้าชั้น ล่าง 
สาเหตุของปัญหาพื้นห้องน้ำรั่วที่พบบ่อย
  1. มีการเจาะพื้นห้องน้ำ เพื่อ วางท่อต่างๆ เช่น ท่อระบายน้ำทิ้ง ซึ่งอยู่บริเวณมุมของห้องน้ำและมีตะแกรงปิดอยู่ หรือท่อใต้ชักโครก เมื่อช่างเจาะแล้วก็จะต่อท่อต่างๆ ขึ้นมา อาจจะเกิดช่องว่างระหว่างท่อกับพื้นห้องน้ำ ส่วนมากช่างจะเอาเศษวัสดุหรือเศษกระดาษมาอุดรอบๆ ท่อ แล้วจึงใช้ปูนซีเมนต์มาอุดรอบๆ ท่ออีกที เหตุนี้จึงอาจทำให้เกิดการรั่วซึมบริเวณรอบๆ ท่อได้ 
  2. ก่อน ปูพื้นกระเบื้องห้องน้ำ ช่างต้องเทกันซึมให้ก่อนปูกระเบื้อง แต่บ้านบางหลังก็พบแจ็คพอตช่างไม่ได้เทกันซึมให้ พื้นห้องน้ำจึงรั่วซึมได้ง่าย
  3. หรืออีกข้อคือห้องน้ำที่ใช้ผ่านการใช้งานมาหลายปี ปูนยาแนวตามร่องกระเบื้องจะร่อนออกทำให้เป็นสาเหตุให้น้ำรั่วซึมได้
วิธีแก้ไข
  1. เปิดฝ้าชั้นล่าง ดูตำแหน่งท่อจากชักโครก และท่อระบายน้ำทิ้งว่ามีรอยน้ำรั่วซึมตามท่อหรือไม่
    วิธี การตรวสอบง่ายๆ คือใช้กระดาษทิชชูพันรอบๆ ท่อ แล้วทิ้งไว้ จากนั้นทดลองใช้ห้องน้ำตามปกติ ดูว่ากระดาษทิชชูเปียกหรือเปล่า ถ้าเปียกแสดงว่าเกิดการรั่วซึมบริเวณรอบ ๆ ท่อ
    ถ้า เกิดจากสาเหตุนี้ ให้นำกระดาษรอบๆ ท่อออก ผสมปูนซีเมนต์กับน้ำ และน้ำยากันซึมให้เหลวพอประมาณ เทรอบๆ ท่อ บริเวณที่เอากระดาษออก โดยเทให้สูงกว่าปากท่อที่ตัดออก และปล่อยน้ำปูนให้แห้งพอหมาดๆ ทิ้งไว้จนแห้ง จึงเอาเศษท่อที่ครอบไว้ออก ติดตั้งชักโครก หรือ ปูกระเบื้องพื้นห้องน้ำให้เหมือนเดิม แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย
  2. ขูด ปูนยาแนวกระเบื้องออกให้หมด ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษวัสดุใต้กระเบื้อง ออก ผสมปูนซีเมนต์ และน้ำยากันซึม เทน้ำปูนใส่ตามร่องกระเบื้องให้เต็มทุกแผ่น พอน้ำปูนหมาดๆ ใช้เกรียงยางปาดน้ำปูนลึกเป็นร่องต่ำกว่ากระเบื้องเล็กน้อยเพื่อยาแนว กระเบื้อง ปล่อยให้แห้งสนิทแล้วใช้ปูนยาแนว ยาแนวให้หมดทุกพื้นที่แล้วปล่อยให้แห้ง จึงใช้ห้องน้ำได้ อันนี้เป็นวิธีแก้ไข ในกรณีที่ช่างลืมเทกันซึม หรือห้องน้ำที่ยาแนวหลุดร่อนแล้ว


cr:
decor.mthai.com

ช่องทางการติดต่อ
ก.การช่างทีม คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
ก.การช่าง รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
www.kor-karnchang.com
Phone: 0979692624 , 0955419777, 0954956444
Email: cs@kor-karnchang.com

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

วิธีตรวจเช็คอาการแอร์เบื้องต้น


วิธีตรวจเช็คอาการแอร์เบื้องต้น
  เมื่อแอร์เกิดอาการผิดปกติ ท่านควรทำการตรวจสอบปัญหา เพราะไม่เพียงแต่คุณจะสามารถรู้ว่าอุปกรณ์ที่คุณกำลังเป็นเจ้าของอยู่นั้นเป็นอะไร แต่จะเป็นการรักษาแอร์ให้อยู่กับเราได้นานขึ้น และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ดังนั้น เราควรจะรู้วิธีในการสังเกต และแก้ไขปัญหาเหล่านั้นเบื้องต้น

1. อาการ  แอร์ไม่เย็น ( คอมเพรสเซอร์ทำงาน )
สาเหตุ
  • น้ำยาแอร์ขาด
  • แอร์สกปรก
  • คอมเพรสเซอร์ไม่มีกำลังอัด
  • มีอาการตันของระบบน้ำยา
  • การกระจายลมเย็นไม่เพียงพอ
วิธีแก้ไข
  • เติมน้ำยาเข้าระบบแรงดัน 70-80 ปอนดต่อตารางนิ้ว
  • ทำการล้างแอร์ทั้งคอย์ร้อนและคอยล์เย็นโดยปั๊มน้ำแรงดันสูง
  • ทำการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์
  • ทำการเปลี่ยนแคปทิ้ว(ตัวฉีดน้ำยา) , ไดเออร์(ตัวกรองความชื้น)
  • และแวคคั่มระบบเติมน้ำยาใหม่
  • ปรับปรุงการจ่ายลมเย็น
2. อาการ แอร์ไม่เย็น ( คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน )
สาเหตุ
  • สวิทซ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ไม่ทำงาน
  • สายไฟขาดหรือหลวม
  • แคปสตาร์ท (Starting Capacitor) ชำรุด
  • แคปรัน (Running Capacitor) ชำรุด
  • รีเลย์ (ถ้ามี) ผิดปกติ
  • โอเวอร์โหลดตัดการทำงานหรือชำรุด
  • แรงเคลื่อนไฟฟ้าต่ำหรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก
วิธีแก้ไข
  • ถ้าปรับสวิทซ์ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในตำแหน่งที่เย็นกว่าอุณหภูมิห้อง แต่เครื่องยังไม่ทำงานให้เปลี่ยนเทอร์โมสตัทใหม่
  • ตรวจสอบสายไฟและขั้วต่อสายไฟต่างๆ เช่น ที่สวิทซ์และที่ขั้วสายไฟของคอมเพรสเซอร์
  • ตรวจเช็คแคปสตาร์ทถ้าชำรุดให้เปลี่ยนใหม่
  • ตรวจเช็คแคปรัน ถ้าชำรุดให้เปลี่ยนใหม่
  • ตรวจซ่อมแก้ไข หรือเปลี่ยนรีเลย์ใหม่
  • ตรวจดูว่าความร้อนที่คอมเพรสเซอร์สูงเกินไป หรือโอเวอร์โหลดผิดปกติหรือไม่
  • ตรวจวัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าและทำการแก้ไข
3. อาการ เครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน
สาเหตุ
  • ฟิวส์ขาดหรือไม่มีฟิวส์
  • สายไฟขาดหรือหลวม
  • แรงเคลื่อนไฟฟ้าต่ำ หรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก
  • สวิทซ์ควบคุม ขัดข้องหรือชำรุด
วิธีแก้ไข
  • เปลี่ยนหรือใส่ฟิวส์ใหม่
  • ตรวจหาตำแหน่งที่ไฟฟ้าเกิดลัดวงจร
  • ตรวจวัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่สายไฟก่อนเข้าตัวสวิทซ์ ถ้าวัดแล้วมีแรงเคลื่อนถูกต้องแต่แรงเคลื่อนที่ผ่านออกจากตัวสวิทซ์มีค่าน้อยกว่า หรือไม่ถูกต้องให้เปลี่ยนสวิทซ์ใหม่
4. อาการ พัดลมทำงานมีเสียงดัง (คอยล์ร้อนเสียงดัง)
สาเหตุ
  • พัดลมมีสิ่งแปลกปลอมหรือกระทบกับสิ่งอื่น
  • พัดลมหรือมอเตอร์พัดลดหลวมหรือชำรุด
  • ใบพัดบิดเบี้ยวไม่สมดุลย์
  • แมกเนติกเสื่อม
วิธีแก้ไข
  • ตรวจสอบตำแหน่ง และช่องว่างของพัดลมและหาสิ่งแปลกปลอม
  • ตรวจและขันพัดลมให้แน่นกับเพลา
  • ตรวจสอบการบิดเบี้ยวของใบพัด ถ้าชำรุดให้เปลี่ยนใหม่
  • ทำการเปลี่ยนแมกเนติก
5. อาการ น้ำหยดที่คอยล์เย็น
สาเหตุ
  • แอร์สกปรก
  • ข้อต่อท่อน้ำทิ้งหลุด
  • ท่อน้ำทิ้งตัน
  • ติดตั้งเครื่องเป่าลมเย็นไม่ได้ระดับ
  • ถาดน้ำทิ้งมีรอยรั่ว หรือมีน้ำรั่วจากแหล่งอื่นที่ไม่ได้มาจากเครื่องปรับอากาศ
วิธีแก้ไข
  • ทำการล้างแอร์ด้วยปั๊มแรงดันสูง
  • ทำการตรวจเช็คหาจุดที่หลุด
  • ทำการฉีดไล่ด้วยปั๊มแรงดันสูง หรือ ทำการตัดคอยล์เย็นลงมาทำการถอดชิ้นส่วนและฉีดล้าง ติดตั้งเครื่องให้ได้ระดับและทำให้ถาดน้ำลาดลงไปตามทิศทางการไหล
  • ใช้วัสดุอุดรอยรั่ว
6. อาการ แอร์มีกลิ่นอับชื้น
สาเหตุ
  • ในห้องมีความชื้นสูง
  • แอร์สกปรก
  • เดินท่อน้ำทิ้งไปตรงกับท่อระบายน้ำ
วิธีแก้ไข
  • ตั้งโหมดลดความชื้นที่รีโมต
  • ทำการล้างแอร์ด้วยปั๊มแรงดันสูง
  • ทำการเปลี่ยนตำแหน่งใหม่
7. อาการ ตัวเครื่องสั่นและมีเสียงลมดังผิดปกติ
สาเหตุ
  • ท่อน้ำยาด้านดูดและด้านส่งสัมผัสกัน
  • น๊อต หรือสกรู ยึดคอมเพรสเซอร์ ฝาครอบเครื่องหรือแคปหลวม
  • ใบพัดลมบิดงอ หรือหลวม
  • พัดลมมอเตอร์ เคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ตั้ง เนื่องจากจุดที่จับยึดหลวม
วิธีแก้ไข
  • ดัดท่อให้เกิดช่องว่างระหว่างท่อทางด้านดูด และท่อทางด้านส่ง
  • ขันน๊อต หรือสกรูให้แน่น
  • เปลี่ยนพัดลม
  • ตรวจตำแหน่งให้ถูกต้อง  และขันน๊อตที่ล็อคให้แน่น
8. อาการ คอมเพรสเซอร์สตาร์ทไม่ออก (ถ้าปล่อยไว้นานคอมเพรสเซอร์จะไหม้)
สาเหตุ
  • ต่อวงจรไฟฟ้าไม่ถูกต้อง
  • ไฟที่จ่ายไปยังเครื่องมีแรงเคลื่อนต่ำ (หรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก)
  • แคปรัน (Run Capacitor) เสียหายขัดข้อง
  • มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ไหม้
  • กลไกภายในคอมเพรสเซอร์ขัดข้อง
วิธีแก้ไข
  • ตรวจเช็คและต่อวงจรไฟฟ้าใหม่
  • ค้นหาสาเหตุและแนวทางป้องกันแก้ไขให้ถูกต้อง
  • ค้นหาสาเหตุและแก้ไขแล้วเปลี่ยนแคปรันใหม่
  • เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์
9. อาการ บานสวิงที่คอยล์เย็นไม่ทำงาน
สาเหตุ
  • มอเตอร์สวิงเสีย
  • ขาบานสวิงหัก
  • แผงควบคุมเสีย
วิธีแก้ไข
  • ทำการเปลี่ยนมอเตอร์สวิง
  • ทำการเปลี่ยนขาบานสวิง
  • ทำการเปลี่ยนหรือส่งซ่อมที่ศูนย์บริการของผู้ผลิต
10. อาการ คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน (คอมเพรสเซอร์ไม่มีเสียง)
สาเหตุ
  • สวิทซ์ของเครื่องปรับอากาศยังไม่ได้เปิดหรือเปิดไม่ครบถ้วน (บางตัวอยู่ในตำแหน่ง OFF)
  • ไม่มีฟิวส์ หรือฟิวส์ขาด
  • โอเวอร์โหลดตัดวงจร (Trips)
  • ระบบควบคุมการทำงานของเครื่อง เช่น รีโมทคอนโทรลมีปัญหาขัดข้อง
  • ปรับตั้งเทอร์โมสตัทที่อุณหภูมิสูงเกินไป ทำให้เทอร์โมสตัทตัด
  • ติดตั้งเทอร์โมสตัทหรือชุดควบคุมอุณหภูมิในตำแหน่งที่โดนลมเย็นจากเครื่องเป่าลมเย็นโดยตรง
  • วงจรไฟฟ้าไม่ถูกต้องหรือเกิดการลัดวงจร
วิธีแก้ไข
  • ปิดสวิทซ์ที่จ่ายไฟให้เครื่องปรับอากาศให้ครบทุกตัว (สับสวิทซ์ให้อยู่ในตำแหน่ง ON)
  • ใส่หรือเปลี่ยนฟิวส์
  • ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าเพื่อหาสาเหตุของการตัดวงจรแล้วแก้ไขให้เรียบร้อย
  • เปลี่ยนหรือซ่อมแก้ไขระบบควบคุมการทำงานของเครื่อง
  • ปรับตั้งเทอร์โมสตัทให้อุณหภูมิทำความเย็นต่ำลง
  • เปลี่ยนตำแหน่งติดตั้งเทอร์โมสตัทหรือชุดควบคุมอุณหภูมิใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่โดนลมเย็น
  • ตรวจเช็คและต่อวงจรไฟฟ้าใหม่
11. อาการ คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานและโอเวอร์โหลดตัดวงจร
สาเหตุ
  • ต่อวงจรไฟฟ้าไม่ถูกต้อง
  • ไฟที่จ่ายไปยังเครื่องมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าต่ำ (หรือมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก)
  • มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ไหม้
วิธีแก้ไข
  • ตรวจเช็ควงจรไฟฟ้าใหม่และแก้ไขให้ถูกต้อง
  • ค้นหาสาเหตุและหาแนวทางป้องกันแก้ไขให้ถูกต้อง
  • เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์
12. อาการ โอเวอร์โหลดตัดวงจรและคอมเพรสเซอร์หยุดทำงานหลังจากที่เริ่มสตาร์ทใหม่ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
สาเหตุ
  • มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านโอเวอร์โหลดมากเกินไป
  • มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก
  • โอเวอร์โหลดขัดข้อง
  • แคปรัน (Run Capacitor) เสียหาย ขัดข้อง
  • คอมเพรสเซอร์ร้อนจัด
  • คอมเพรสเซอร์ไหม้
วิธีแก้ไข
  • ตรวจเช็ควงจรไฟฟ้า มอเตอร์พัดลม การต่อสายไฟและขนาดของโอเวอร์โหลดให้ถูกต้อง
  • ค้นหาสาเหตุและทำการแก้ไข
  • ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้าและเปลี่ยนโอเวอร์โหลด
  • ค้นหาสาเหตุและเปลี่ยนแคปรันใหม่
  • ตรวจวัดสารทำความเย็น (มีการรั่วหรือไม่) ถ้าจำเป็นให้เพิ่มเติมแล้วตรวจสอบซุปเปอร์ฮีท
  • เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์
13. อาการ แคปรัน (Run Capacitor) ขาด ลัดวงจร
สาเหตุ
  • ใช้ขนาดความจุไม่ถูกต้อง
  • แรงเคลื่อนไฟฟ้าสูงผิดปกติ (มากกว่า 110% ของแรงเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด)
วิธีแก้ไข
  • เปลี่ยนแคปรันให้มีขนาดความจุที่ถูกต้อง
  • หาสาเหตุและแก้ไขให้ถูกต้อง
14. อาการ ท่อน้ำยาด้านดูดมีน้ำหรือเกล็ดน้ำแข็งเกาะ
สาเหตุ
  • พัดลมของแฟนคอยล์ยูนิตไม่ทำงาน
  • มีสารทำความเย็นระบบมากเกินไป
วิธีแก้ไข
  • หาสาเหตุและซ่อมแก้ไข
  • ปล่อยสารทำความเย็นออกจากระบบแล้วตรวจสอบซุปเปอร์ฮีท
15. อาการ ท่อน้ำยาด้านส่งมีน้ำหรือน้ำแข็งเกาะ (เฉพาะเครื่องรุ่นที่ฉีดน้ำยาที่แฟนคอยล์ ยูนิต)
สาเหตุ
  • อุปกรณ์กำจัดความชื้นและไส้กรองตัน
  • เซอร์วิสวาล์วด้านส่งเปิดไม่สุด
วิธีแก้ไข
  • เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่
  • เปิดวาล์วให้สุด
16. อาการ ความดันท่อน้ำยาทางด้านดูดและทางด้านส่งต่ำกว่าปกติ
สาเหตุ
  • สารทำความเย็นในระบบมีน้อย
  • วาล์วคอมเพรสเซอร์รั่วหรือชำรุด
วิธีแก้ไข
  • ตรวจรอยรั่วของระบบ ทำการแก้ไขและเติมสารทำความเย็นเข้าไปใหม่ให้ได้ปริมาณที่ถูกต้องแล้วทำการตรวจสอบซุปเปอร์ฮีท
  • เปลี่ยนวาล์วคอมเพรสเซอร์
17. อาการ รีโมตไม่ทำงาน
สาเหตุ
  • ถ่านหมด
  • ตัวรับสัญญาณเสีย
  • รีโมตเสีย
  • กะเปาะวัดอุณหภูมืเสีย
วิธีแก้ไข
  • ทำการเปลี่ยนถ่าน
  • ทำการเปลี่ยนหรือส่งซ่อมที่ศูนย์บริการของผู้ผลิต
  • ทำการเปลี่ยนรีโมต
  • ทำการเปลี่ยนกะเปาะวัดอุณหภูมิ


cr:
www.withikarn.com


ช่องทางการติดต่อ
ก.การช่างทีม คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
ก.การช่าง รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
www.kor-karnchang.com
Phone: 0979692624 , 0955419777, 0954956444
Email: cs@kor-karnchang.com