ใช้แอร์อย่างไรให้ถูกวิธี ?
หลายๆสาเหตุของเครื่องปรับอากาศ มีข้อบกพร่อง
อาจเกิดจากเพียงแค่สกปรกหรือตันจาการสะสมของฝุ่นละออง แต่ถ้าปล่อยไว้นานปัญหาเล็กๆ
ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ หรือเป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องปรับเสีย
ยิ่งทิ้งไว้นานก็ยิ่งลุกลามจนอาจจะต้องเปลี่ยนเครื่อง
เนื่องจากไม่สามารถเยียวยาได้
นี้ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องล้างเครื่องปรับอากาศ
นั่นก็คือเราจะเสียเงินค่าบำรุงรักษาน้อยกว่าการเสียเงินเพื่อซ่อมแซมนั่นเอง
- หมั่นล้างแอร์ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
โดยช่างผู้ชำนาญทุก 4-6 เดือน และถอดหน้ากากแอร์ออกมาล้างเอง เป็นประจำ เดือนละครั้ง
เพื่อให้แอร์ทำงาน ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่มีฝุ่นอุดตัน ซึ่งนอกจาก
ช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟได้ 10%
- ตั้งอุณหภูมิแอร์ ต้องไม่ต่ำกว่า 25
องศาเซลเซียส และทดลองตั้งที่ 26-27 องศาเซลเซียส แล้วใช้พัดลมเบอร์ 5
พัดกระจายความเย็น ก็จะช่วยให้ประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 10-30% เลยทีเดียว
- ปรับทิศทางของช่องจ่ายลมเย็น และความแรงของลมให้เหมาะสม กับตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อจะได้เย็นเร็วขึ้น และไม่ต้องปรับอุณหภูมิให้เย็นขึ้น เพราะจะทำสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า
- ก่อนเปิดแอร์ให้เปิดประตู
หน้าต่างให้อากาศภายนอก เข้าไปแทนที่อากาศภายในห้องเป็นการถ่ายเทความร้อน สัก 15
นาที เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดพัดลมระบายอากาศ และแอร์ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
- ปิดประตู หน้าต่างให้สนิทขณะเปิดแอร์
เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศร้อน หรือความชื้นจากภายนอกเข้ามา เพราะจะทำให้
เครื่องปรับอากาศ ทำงานหนักขึ้น
- ไม่ควรนำความชื้นเข้าไปในห้องแอร์ เช่น ไม่นำผ้าเปียกๆเข้าไปตาก ไม่ควรวางกระถางต้นไม้ ไว้ในห้องที่มีแอร์ และไม่ควรเปิดบานเกล็ด ระบายอากาศของประตูห้องน้ำ เพราะไม่เช่นนั้น แอร์จะทำงานหนัก ในการต้องรีดความชื้น ออกจากห้อง ทำให้ต้องสูญเสียพลังงานไปโดยใช่เหตุ
-เลือกขนาดบีทียู / ขนาดความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ให้พอดี
ถ้าเราเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดบีทียู ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ห้อง อาจทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป
ขนาดความเย็นของเครื่องปรับอากาศ (บีทียู) คือขนาดความสามารถในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ (British Themal Unit) มีหน่วยดังนี้ 1 ตัน = 12000 BTU ดังนั้นเราควรเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศให้มีขนาดพอเหมาะกับ ห้องที่จะทำการติดตั้งซึ่งเป็นความสำคัญอันดับแรกในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ
ตารางการเปรียบเทียบการเลือกขนาด BTU กับพื้นที่ห้อง
วิธีการคำนวณหาค่าบีทียูแบบง่ายๆด้วยตนเอง
บีทียู = พื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว) x ค่าตัวแปร
ค่าตัวแปร = ค่าความร้อน แบ่งออกได้ 2 ระดับคือ
700 – 800 ห้องที่มีความร้อนน้อย (ห้องที่ไม่โดนแดดหรือโดนแดดเล็กน้อย หรือห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ช่วงกลางคืน)
900 – 1200 ห้องที่มีความร้อนปานกลาง – มาก (หรือห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศช่วงกลางวันเป็นหลัก)
บีทียู = พื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว) x ค่าตัวแปร
ค่าตัวแปร = ค่าความร้อน แบ่งออกได้ 2 ระดับคือ
700 – 800 ห้องที่มีความร้อนน้อย (ห้องที่ไม่โดนแดดหรือโดนแดดเล็กน้อย หรือห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ช่วงกลางคืน)
900 – 1200 ห้องที่มีความร้อนปานกลาง – มาก (หรือห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศช่วงกลางวันเป็นหลัก)
*** ถ้าหากเพดานห้องสูงกว่า 2.5 เมตร ขึ้นไปให้บวกค่าบีทียูเพิ่มขึ้นอีก 5% จากค่าปกติ***
cr:
sites.google.com/site/changxaersinghburi
hieffcooling.co.th
ช่องทางการติดต่อ
ก.การช่างทีม คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
ก.การช่าง รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
www.kor-karnchang.com
Phone: 0979692624 , 0955419777, 0954956444
Email: cs@kor-karnchang.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น