วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

4 แนวทางสร้างบ้านใหม่


การจะได้บ้านหลังใหม่นั้นมี 4 แนวทาง ไม่ว่าจะเป็นแนวทางที่ง่ายดายหรือหลายขั้นตอน ต่างมีข้อดีและข้อควรคำนึงที่แตกต่างกัน เราจึงควรเลือกวิธีที่เหมาะสมและสามารถตอบโจทย์เราได้ดีที่สุด 
       เมื่อเราตัดสินใจจะสร้างบ้านใหม่สักหนึ่งหลัง และได้รวบรวมความต้องการของสมาชิกแต่ละคนในบ้าน ตั้งงบประมาณในใจ รวมถึงกำหนดช่วงเวลาโดยประมาณที่บ้านจะสร้างเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาสำหรับการเตรียม “แบบบ้าน” หรือ “แบบก่อสร้าง” ไปจนถึงการตัดสินใจเรื่องแนวทางการก่อสร้างบ้าน ก่อนจะดำเนินการยื่นขออนุญาตและลงมือก่อสร้างบ้านในขั้นตอนต่อไป

       4 แนวทางในการได้แบบบ้านและสร้างบ้านใหม่ ได้แก่ การใช้บริการทีมสถาปนิกออกแบบและจัดหาผู้รับเหมา การใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน การใช้แบบบ้านฟรี/ซื้อแบบบ้านและจัดหาผู้รับเหมา และการซื้อบ้านสำเร็จรูป ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อควรคำนึงที่แตกต่างกันไป

1. การใช้บริการทีมสถาปนิกออกแบบและจัดหาผู้รับเหมา
การใช้บริการหรือว่าจ้างทีมสถาปนิกออกแบบบ้าน (จะมีทั้งรูปแบบบริษัท (บริษัทออกแบบ) หรือจ้างสถาปนิกอิสระ) ทำให้เราได้แบบบ้านที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและลักษณะเฉพาะตัวของที่ดินแต่ละผืน ผังตัวบ้านเหมาะสมสอดคล้องกับทิศทางแดดลม ตอบโจทย์ความต้องการและวิถีชีวิตของสมาชิกในบ้านได้มากกว่าแบบอื่นๆ และมีรูปแบบไม่ซ้ำใคร ซึ่งสถาปนิกจะออกแบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนดกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างบ้าน (ความสูงอาคาร ระยะถอนร่น การเว้นที่ว่างโดยรอบอาคาร เป็นต้น) โดยจะทำงานประสานกับวิศวกรที่เกี่ยวข้อง ทั้งงานโครงสร้าง งานระบบไฟฟ้า ระบบประปาสุขาภิบาล ฯลฯ เพื่อให้ได้แบบก่อสร้างที่สมบูรณ์  พร้อมลงนามรับรองแบบเพื่อยื่นขออนุญาตก่อสร้าง รวมถึง*จัดทำเอกสารราคากลางค่าก่อสร้าง เป็นที่ปรึกษาตลอดช่วงเวลาการก่อสร้าง และ*เข้ามาดูงานก่อสร้างเป็นระยะ (*ขึ้นอยู่กับข้อตกลงในสัญญาว่าจ้าง)

สำหรับแนวทางนี้ เจ้าของบ้านจะต้องเผื่อเวลาช่วงการออกแบบและจัดทำแบบ รวมถึงเตรียมงบประมาณสำหรับค่าบริการตามมาตรฐานวิชาชีพด้วย นอกจากนี้ ต้องจัดหาผู้รับเหมาและผู้ควบคุมงานก่อสร้างเอง โดยสถาปนิกจะเป็นที่ปรึกษาในการคัดเลือก และในระหว่างงานก่อสร้างควรหลีกเลี่ยงการปรับแก้แบบจากแบบก่อสร้างที่จัดทำไว้ เพื่อควบคุมงบประมาณให้เป็นไปตามที่กำหนด (ควรปรับแก้แบบจนเป็นที่พอใจมากที่สุดก่อนลงมือก่อสร้าง)

*ควรเลือกสถาปนิกและวิศวกรที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เพื่องานที่มีมาตรฐาน
ภาพ: การใช้บริการทีมสถาปนิกออกแบบจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการและขนาดที่ดินแต่ละที่ได้มากกว่าแบบอื่นๆ แต่มีค่าใช้จ่ายในการให้บริการตามมาตรฐานวิชาชีพ
ภาพ: บ้านที่ออกแบบโดยสถาปนิก
ขอขอบคุณ: คุณพรทิพย์ ล้อสีทอง
2. การใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน
       อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเจ้าของบ้านคือการว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้านซึ่งเป็นบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา จัดทำแบบ และก่อสร้างจนเสร็จสมบูรณ์เป็นบ้านหนึ่งหลัง มีทั้งสถาปนิก วิศวกร และทีมงานก่อสร้างครบถ้วน แต่ละบริษัทรับสร้างบ้านอาจจะมีวิธีการก่อสร้างที่แตกต่างกัน หรือมีความเฉพาะตัว เช่น บ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบโครงสร้างสำเร็จรูป บ้านประหยัดพลังงานที่ใช้วัสดุลดความร้อน บ้านระบบโมดูลาร์ เป็นต้น โดยรูปแบบบริษัทรับสร้างบ้านจะมีอยู่ 2 รูปแบบ รูปแบบแรกคือมีแบบบ้านสำเร็จรูปที่ออกแบบไว้แล้วให้เลือก และก่อสร้างตามแบบนั้นๆ เจ้าของบ้านไม่สามารถปรับแก้แบบได้ หรืออาจทำได้เพียงเล็กน้อย โดยแต่ละแบบจะมีหลายราคาตามสเปควัสดุที่เลือกใช้ รูปแบบที่สองคือมีบริการออกแบบโดยสถาปนิกและก่อสร้างตามแบบ แต่แบบบ้านที่ได้อาจไม่หวือหวาหรือมีแนวคิดโดดเด่นมากนัก เพราะต้องยึดตามวิธีการก่อสร้างบ้านที่บริษัทชำนาญเป็นหลัก

       แนวทางนี้มีข้อดีคือสามารถคุมงบประมาณได้ค่อนข้างแน่นอน เจ้าของบ้านติดต่อกับบริษัทรับสร้างบ้านที่เดียวจบ ไม่ต้องจัดหาผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา ผู้ควบคุมงานก่อสร้างเอง แต่ควรหาที่ปรึกษาคนกลางระหว่างเรากับบริษัทเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้งานก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น

*ควรเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีประวัติผลงานที่ดี 
ภาพ: การใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน สะดวกต่อเจ้าของบ้านและช่วยคุมงบประมาณได้ดี
ภาพ: ตัวอย่างบ้านระบบโมดูลาร์พร้อมบริการแบบครบวงจรจาก SCG HEIM
3. การใช้แบบบ้านฟรี ซื้อแบบบ้านและจัดหาผู้รับเหมา
       แบบบ้านฟรีคือแบบบ้านที่เราได้มาจากแหล่งต่างๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ละแบบอาจมีรายละเอียดมากน้อยแตกต่างกัน แบบที่ไม่ละเอียดอาจจะมีเพียงแบบแปลนแต่ละชั้น รูปตัด รูปด้าน ภาพสามมิติหรือทัศนียภาพ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแบบสถาปัตยกรรมที่ยังขาดรายละเอียดอีกมาก และยังไม่มีแบบโครงสร้างและแบบงานระบบที่เกี่ยวข้องด้วย จึงยังไม่สามารถนำไปใช้ก่อสร้างได้ จะต้องว่าจ้างทีมออกแบบให้พัฒนาแบบและจัดทำแบบก่อสร้างเพิ่มเติม ส่วนแบบที่มีรายละเอียดครบถ้วน ส่วนใหญ่จะสามารถนำไปก่อสร้างได้ โดยอาจมีการปรับแบบบางส่วนเพื่อให้เหมาะกับสภาพที่ดินของเรา สำหรับแบบบ้านที่เราซื้อมา จะเป็นแบบบ้านที่มีรายละเอียดครบถ้วน สามารถนำไปก่อสร้างได้จริงเช่นกัน โดยสามารถเลือกซื้อเอกสารราคากลางค่าก่อสร้าง (BOQ) เพิ่มเติมได้ เพื่อนำไปให้ผู้รับเหมาประกวดราคาค่าก่อสร้าง

       ทั้งแบบบ้านฟรีและแบบบ้านซื้อ ส่วนใหญ่จะให้มาพร้อมค่าก่อสร้างที่ทำให้เรารู้งบประมาณคร่าวๆ ได้ แนวทางนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องแบบก่อสร้างลง และยังมีแบบบ้านที่มองเห็นภาพชัดเจนให้เลือกมากมาย แต่แบบบ้านที่ได้ก็อาจจะไม่เหมาะสมลงตัวกับที่ดินของเรา หรืออาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกทุกคนในบ้านได้ครบถ้วน และเมื่อเราได้แบบบ้านที่พร้อมก่อสร้างแล้ว จะต้องจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้าง และผู้ควบคุมงานก่อสร้างที่ไว้ใจได้ (เช่นเดียวกับแนวทางการใช้บริการสถาปนิกออกแบบ) เพื่อให้เป็นไปตามแบบก่อสร้างและตามแผนงานที่กำหนด ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจเลือกแบบบ้านที่ต้องการ เจ้าของบ้านควรศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องกฎหมายควบคุมอาคารโดยเฉพาะเรื่องระยะถอยร่นต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี เพราะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการคัดเลือกแบบบ้านในเบื้องต้น

* หากแบบบ้านที่ได้มามีการออกแบบโครงสร้างใต้ดินไว้แล้ว ควรให้วิศวกรพิจารณาอีกครั้งว่าเหมาะกับสภาพหรือลักษณะดินในพื้นที่ของเราหรือไม่
 
ภาพ: แบบบ้านฟรี/ซื้อแบบบ้าน มีข้อดีคือช่วยลดค่าจัดทำแบบ แต่อาจไม่สัมพันธ์กับขนาดที่ดินและไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกทุกคนในบ้านได้
ภาพ: ตัวอย่างแบบบ้านฟรี SCG
4. การซื้อบ้านสำเร็จรูป 
       “บ้านสำเร็จรูป” หรือที่เรียกกันว่า บ้านพรีแฟบ (Prefab) บ้านน็อคดาวน์ (Knock Down) เป็นบ้านที่ผลิตชิ้นส่วนจากโรงงาน และนำมาติดตั้งหรือประกอบในพื้นที่ก่อสร้าง สามารถก่อสร้างได้รวดเร็ว ควบคุมงบประมาณได้ดี โครงสร้างบ้านมักเป็นวัสดุเบาอย่าง เหล็ก ไม้ หรืออาจเป็นบ้านที่ปรับจากตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งนี้ เจ้าของบ้านมักจะต้องเตรียมโครงสร้างใต้ดิน (เสาเข็ม ฐานราก) ระบบไฟฟ้า และระบบประปาสุขาภิบาลรองรับไว้ก่อน

       สำหรับบ้านสำเร็จรูปโดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนแบบบ้านได้ รวมถึงวัสดุก่อสร้างก็มักจะถูกกำหนดตายตัวเป็นมาตรฐาน เจ้าของบ้านอาจเปลี่ยนได้เพียงสีสัน หรือรุ่นตามที่บริษัทกำหนดเท่านั้น นอกจากนี้ ควรพิจารณาเรื่องที่ตั้งหรือไซต์ก่อสร้างว่ารถหกล้อหรือรถเครนสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ (เนื่องจากจะต้องใช้รถหกล้อหรือรถเครนที่มีขนาดใหญ่ในการขนส่งบ้าน หรือชิ้นส่วนต่างๆ ที่นำมาประกอบเป็นบ้าน) มีความสะดวกในการเดินทางขนส่งมากน้อยเพียงใด (หากอยู่ในซอยลึก ถนนแคบ เข้าถึงยาก จะไม่เหมาะกับบ้านสำเร็จรูป) รวมถึงมีข้อจำกัดหากต้องการปรับปรุงหรือต่อเติมในอนาคต
 
ภาพ: แบบบ้านที่ได้จากการซื้อบ้านสำเร็จรูปนั้น จะมีแบบให้เลือกค่อนข้างจำกัด
เมื่อตัดสินใจเลือกวิธีการจนได้แบบบ้านหรือแบบก่อสร้างที่สมบูรณ์แล้ว ก็สามารถเตรียมตัวสำหรับการยื่นขออนุญาตก่อสร้าง และหาผู้รับเหมาได้เลย
 
*การยื่นขออนุญาตก่อสร้าง สำหรับบ้านพักอาศัยไม่เกินสองชั้นและมีพื้นที่ทุกชั้นในหลังเดียวรวมกันไม่เกิน 150 ตารางเมตร จะได้รับการยกเว้นในการแนบแบบก่อสร้างในการขออนุญาตก่อสร้าง โดยแนบเฉพาะผังบริเวณแสดงที่ตั้งอาคารโดยสังเขป และสำเนาเอกสารแสดงสิทธิในที่ดิน พร้อมใบคำขออนุญาตก่อสร้าง และไม่จำเป็นต้องมีสถาปนิกควบคุมงาน 
CR: scgbuildingmaterials.com

ช่องทางการติดต่อ
เคพี โฮมบิวเดอร์ คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
เคพี โฮมบิวเดอร์ รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
Phone: 📱0979692624 📱095-495-6444 📱099-141-9624
Line:@kphomebuilder
IG: kp_home_builder
FB: kphomebuilder
www.kp-homebuilder.com
เค พี โฮม บิวเดอร์ รับออกแบบ รับสร้างบ้าน อาคารพาณิชย์ 🏗 🏠 🏢
เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.00 น. - 17.00น.
"เราต้องการให้คนไทยมีบ้านคุณภาพในราคาที่ไม่แพง เสร็จตามเวลา"
#รับเหมาก่อสร้าง #ก่อสร้าง #งานก่อสร้าง #ช่างก่อสร้าง #สร้างบ้าน#บริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพ #แบบบ้านสวย #สร้างบ้านตามความคิดคุณ#เคพีโฮมบิวเดอร์ #kphomebuilder #กการช่าง #kpassetdeveloper

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น