วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

การเลือกสีทาบ้าน



"การเลือกสีทาบ้าน"
      การเลือกสีทาบ้าน ควรเลือกให้เหมาะกับงานแต่ละประเภท ถ้าเป็นงานปูนจะใช้สีนํ้าพลาสติก หรือสี อะครีลิก   งานไม้จะใช้สีนํ้ามันหรือเป็นสีนํ้าอะครีลิก หรือส่วนที่เป็นงานเหล็กจะใช้สีนํ้ามัน เป็นต้น ส่วนที่เป็นเหล็ก จะมีปัญหาเรื่องการทาสีน้อยที่สุด เพราะผิวเหล็กแกร่งไม่มีความชื้นก่อนทาทำความสะอาดให้หมดคราบไขมัน คราบนํ้ามันก็ทาได้ ส่วนที่เป็นไม้ มีความชื้น มีเชื้อราต้องมีสีทากันเชื้อรารองพื้น แล้วจึงทาสีจริง ส่วนที่เป็นผนังปูน ต้องให้ผนังแห้งก่อนแล้วจึงค่อยทาสี การที่ผนังไม่แห้งแล้วทาสีลงไปจะส่งผลให้สีบวม หลุดร่อนง่ายก่อนเวลาอันควร






         วันนี้ .การช่าง มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเลือกสีที่นำมาใช้ทาบ้าน รวมไปถึงข้อมูลประเภทสีทาบ้าน ลักษณะการใช้งาน และวิธีการเลือกสีทาบ้านให้ตรงใจเจ้าของบ้านมากที่สุดมาบอกกัน มาเริ่มกันเลย


1.สีน้ำพลาสติก หรืออะคริลิค

     เป็นสีที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะสามารถใช้ทาได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน โดยสีที่ใช้ทาภายนอกนั้นจะมีราคาแพงกว่าสีทาภายใน เพราะเป็นสีที่มีอะคริลิคแบบ 100% และยังต้องผสมสารอื่นๆเข้าไปเพื่อช่วยป้องกันสภาพอากาศที่อยู่ภายนอก เช่น กันแดด กันฝน กันเชื้อรา กันตะไคร่น้ำ กันความเป็นกรด-ด่างต่าง ซึ่งเราควรให้ความสำคัญกับการเลือกสีอะคริลิคสำหรับทาภายนอกมากที่สุด เพราะถ้าเลือกไม่ได้เราอาจจะต้องทาสีบ้านใหม่บ่อยๆ เพราะสีทีไม่มีคุณภาพจะหลุดลอกออกมาง่ายมาก


2.สีน้ำมัน

      เป็นสีที่ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย นิยมใช้กับงานทาไม้ ทาเหล็ก แต่ก็สามารถเอามาทาพื้นปู หรือคอนกรีตได้เหมือนกัน ลักษณะเด่นของสีน้ำมันก็คือ มันจะมีความเงางาม ทำความสะอาดง่าย แต่ข้อด้อยของมันก็คือมันมีราคาแพง และแห้งช้า(ประมาณ 6 ชั่วโมง)


3.สีย้อมไม้

                              ใช้ทาเฟอร์นิเจอร์ไม้ ส่วนที่เป็นไม้ภายในบ้านให้เป็นสีตามต้องการ


4.สีเคลือบไม้
                ใช้เคลือบไม้ให้เงาๆสวยๆ เป็นการทาเพื่อโชว์ความสวยงามของลายไม้ เช่น แลคเกอร์ เชลแล็ก



5.สีกันสนิม

                            ใช้ทาวัสดุเหล็กเพื่อกันสนิมขึ้น มักใช้ทาก่อนที่จะลงสีน้ำมันทับลงไปอีกที



6.สีทารองพื้นปูน

       ใช้ทาเพื่อรองพื้นวัสดุปูน คอนกรีต ทาก่อนที่จะทาสีจริงๆทับลงไป เพื่อลดความเป็นกรดของพื้นปูนและคอนกรีต ทำให้สีที่ลงจริงสามารถยึดเกาะกับวัสดุได้ดีขึ้น



    ก่อนจะทำการซื้อควรตรวจสอบสีที่เลือกให้แน่ใจเสียก่อนที่จะซื้อ เพราะมีหลายท่านที่รีบตัดสินใจซื้อแล้วสีที่ได้ไม่ใช่สีที่ตัวเองต้องการ เพราะสีทาบ้านแต่ละยี่ห้อแต่ละแบรนด์ให้เฉดสีออกมาต่างกัน ฉะนั้นคุณควรทดสอบสีให้แน่ใจก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ โดยการลองซื้อสีนั้นมาแล้วเพ้นท์ลงบนแผ่นตัวอย่าง แล้วนำไปติดไว้บนผนังตามส่วนต่าง ของบ้าน หรือพื้นที่ที่คุณต้องการ แล้วทิ้งเอาไว้อย่างน้อย 2 วันเพื่อสังเกตความเหมาะสมของสีตามการใช้งานจริง และดูการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสีด้วย หากได้ตามที่คุณต้องการก็ไปซื้อเลยค่ะ

    เปรียบเทียบสีทาบ้านกับของต่างๆภายในบ้าน จะทำให้การตกแต่งบ้านของคุณดูลงตัวยิ่งขึ้น โดยการนำสีทาบ้านที่เลือกมาเทียบกับจุด ต่าง ในบ้านของคุณ อาทิ พื้นบ้าน พื้นที่บริเวณข้างหน้าต่าง หลังงานศิลปะ และเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ต่าง อย่างเช่น ตู้โชว์ โซฟา เตียงนอน และควรนำไปเทียบตามช่วงเวลาต่าง ด้วยทั้งตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเย็น และช่วงค่ำด้วยก็ยิ่งดี

    ควรทดสอบว่าเป็นสีปลอมหรือไม่ โดยการทาดูกับผนังปูนหรือไม้ทิ้งให้แห้ง ถ้าเอานิ้วป้ายๆ ดูแล้วมีฝุ่นชอล์คติดนิ้วมาด้วยแสดงว่าคุณภาพของสีไม่ดี หรือเราจะเรียกว่าสีปลอมจากเนื้อสีโดยมีผู้นำเอาเนื้อสีปลอมไปบรรจุ ในทระป๋องสีของยี่ห้อดังๆ ไปจำหน่าย

เกรดของสีที่เราควรรู้
เกรดของสีก็มีความสำคัญที่ควรเอามาพิจารณาว่า เราควรจะเลือกสีเกรดไหน กับบ้านส่วนไหนของเราบ้าง โดยเกรดสีนั้นจะแบ่งเป็น เกรด A , B , C , D และ E โดยความแตกต่างของสีแต่ละเกรดมีดังนี้
        สีเกรด A เป็นสีที่มีส่วนผสมของอะคริลิค 100% เป็นสีที่มาจากทางฝั่งยุโรป มีคุณภาพสูง อายุการใช้งานยาวนาน ตั้งแต่ 5-10 ปี
        สีเกรด B เป็นสีที่มีส่วนผสมของอะคริลิค 100% เช่นกัน เป็นสีที่มาจากแถบเอเชีย มีคุณภาพกลางๆ อายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี
        สีเกรด C เป็นสีที่มีส่วนผสมของอะคริลิค 70% และจะผสมสารอื่นๆเข้าไปอีก 30% คุณภาพพอใช้ อายุการใช้งานประมาณ 1-3 ปี
        สีเกรด D เป็นสีเกรดต่ำสุด จะมีสารอื่นๆผสมอยู่ในสีมากกว่า 30% ส่วนผสมของอะคริลิคก็จะน้อยลงตามลำดับ
     การทาสี ควรปฏิบ้ติตามคำแนะนำของสีแต่ละยี่ห้อ โดยทั่วไป จะทาสีรองพื้น เที่ยว แล้วทาสีจริงอีก เที่ยว สีบางยี่ห้อ อาจทาสีจริงลงไปทันทีก็มีเพราะสีจริงมีสีรองพื้นปนอยู่ด้วย
ถ้าเป็นผนังเก่า ขอให้ขูดสีเก่าออกให้หมดก่อน แล้วทาสีรองพื้นปูนเก่า เที่ยว ทาสีจริง เที่ยว ถ้าเป็นผนังปูนใหม่ๆ ที่ยังไม่ เคยทาสีมาเลย ให้ทาสีรองพื้นปูนใหม่ เที่ยว แล้วทาสีจริง เที่ยว
สีที่ใช้กับบ้าน หากใช้ยี่ห้อใด ควรใช้ยี่ห้อนั้นๆ ทั้งหลัง เพื่อสะดวกในการดูแลบำรุงรักษาซ่อมแซมในอนาคต ควรมีสมุดประว้ติ ของบ้านว่าใช้สีอะไรสีเบอร์อะไรใช้ส่วนไหนของบ้านช่างที่มาซ่อม จะได้มีข้อมูลในการซ่อมแซม บำรุงรักษาได้ง่ายขึ้น

เคล็ดลับการทาสีบ้านให้ติดทนนาน
    เริ่มจากการเลือกสีให้เหมาะสมกับการใช้งาน คือหากเป็นสีที่เราต้องการใช้ทาภายนอก เราก็ควรเลือกสีที่เป็นเกรด A หรือ B ไปเลย แพงหน่อยแต่ใช้งานได้นานเป็น 10 ปี

    แต่หากเป็นสีที่ใช้ทาภายในเราก็อาจดร็อปลงมาได้ เพราะสีภายในบ้านไม่ต้องต้องเผชิญกับสภาวะสิ่งแวดล้อมมากนัก แต่ก็ควรเลือกสีที่สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งเดี๋ยวนี้มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ

   ส่วนการทาสีนั้นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สีบ้านติดคงทนถาวรนั้น ก็คือ การเตรียมพื้นผิวบริเวณที่เราทาสีให้ดี ให้เรียบ ไม่มีฝุ่นละอองยึดเกาะ ไม่มีไขมัน ไม่มีความชื้น หากมีรอยแตกก็ควรซ่อมแซมหาปูนมาปิดให้เรียบสนิท เมื่อเก็บความเรียบร้อยของพื้นผิวได้แล้ว จึงค่อยเอาสีที่เราต้องการทาทาลงไป โดยการทาสีนั้นก็ควรมาประมาณ 2-3 ชั้นขึ้นไป เพื่อให้สีเนียนเรียบ สวยงาม แต่อย่าทาเกิน 5 ชั้น เพราะจะทำให้ชั้นสีหนาเกินไป ซึ่งจะทำให้สีหลุดลอกได้ง่ายกว่าการทาเพียง 2-3 ชั้น นอกจากจะเปลืองสีมากกว่าแล้ว ความทนทานของสีก็ยังน้อยกว่าด้วย

TIPS: วิธีการแก้ไขปัญหาสี ที่หลุดร่อนมากๆ สีหลุดร่อนเกิดจากการเสื่อมสภาพและความชื้น หรือ คุณภาพของสีไม่ดีตั้งแต่แรก ให้ขูดสีเดิม หรือลอกสีเดิมออกให้หมด ปล่อยให้แห้งแล้วทาสีรองพื้นปูนเก่า 1 เที่ยว ตามด้วยสีจริง 2 เที่ยว

TIPS: ทาสีห้องไว้นานแต่กลิ่นยังไม่จางหาย มีวิธีขจัดกลิ่น สีที่ทาห้องง่ายๆ คือ ใช้ถ่านหุงข้าวที่ใช้กับเตา แบบเก่ามาวางบนหนังสือพิมพ์ 5 จุด ในห้อง เพื่อให้ถ่านดูดกลิ่น ก็จะแก้ปัญหาได้


Cr. 
homeenrich.blogspot.com
britishpaints.net
thaihometown.com

ช่องทางการติดต่อ .การช่าง
ทีม คู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาในทุกคำถามเรื่องบ้าน
.การช่าง รับสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม และจัดดูแลสวน เชียงใหม่
www.kor-karnchang.com
Phone: 0979692624 , 0955419777, 0954956444
Email: cs@kor-karnchang.com
FB: .การช่าง
IG: kor_karnchang




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น